วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

แบรนด์เนม ค่านิยมทางวัตถุ


แบรนด์เนม…วิกฤติทางใจ จากค่านิยมทางวัตถุ
ด้วยกระแสบริโภคนิยม และการวัดค่าของคนจากวัตถุของสังคมไทยในยุคปัจจุบันนี้ คงไม่แปลกที่สินค้ามียี่ห้อ ราคาแพง และได้รับความนิยมจากคนส่วนใหญ่ ที่รู้จักกันในนามสินค้า “แบรนด์เนม” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรืออุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกอย่างโทรศัพท์มือถือนั้น จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของใครหลายๆ คน มากกว่าการเป็นสิ่งของเครื่องใช้ หากยังเป็นเครื่องวัดความมั่งมี วัดความดีงาม ความน่าเคารพ สรรเสริญของคนในสังคม สิ่งนี้ถือเป็นวิกฤติทางจิตใจ ที่ต้องเร่งระงับและให้การแก้ไขโดยด่วน
นั่นเพราะทุกวันนี้ คนในสังคมต่างยึดติดอยู่กับค่านิยมทางวัตถุ “มีเงินเขานับเป็นน้อง มีทองเขานับเป็นพี่” คนดีไม่มีบทบาท ขาดโอกาสทำประโยชน์เพื่อสังคม เลือกมองคนจากวัตถุมากกว่าจิตใจ จึงเป็นเหตุให้หลายๆ คนที่ขาดสติความยั้งคิด เลือกเดินตามทางผิด ดิ้นรนแสวงหาข้าวของเครื่องใช้ราคาแพง เพียงเพื่อความภาคภูมิใจในการได้ครอบครอง ได้โอ้อวด โดยไม่เลือกวิธีการในการแสวงหาสิ่งเหล่านั้น ดังที่เป็นข่าวออกสื่อกันได้แทบทุกวี่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาสาวขายบริการทางเพศ การฉกชิงวิ่งราวจนบานปลายถึงขั้นการปล้นธนาคาร ส่วนในครอบครัวที่มีฐานะ การใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายไปกับข้าวของที่เรียกได้ว่าไม่ได้มีความจำเป็นต่อปัจจัยในการดำรงชีวิตเหล่านี้ จะยิ่งพอกพูนนิสัยแห่งความฟุ่มเฟือยใช้เงินแลกความสุข จากการได้เดินชอปปิงและมีของใช้ราคาแพงไว้โอ้อวดซึ่งกันและกัน ใครที่ไม่มีเมื่อเห็นคนอื่นมี แล้วหลงคิดไปว่าการมีบ้างถือเป็นสิ่งที่ดี ก็จะเป็นทุกข์ เป็นร้อน และเข้าสู่วังวนแห่งการกระทำความผิดเพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งของที่เรียกกันว่าแบรนด์เนม ที่สมมติกันไปว่าเป็นของมีค่า เป็นเครื่องตีตราความดีงามของคนในสังคมได้
การยกย่องความดีให้มีอิทธิพลเหนือเงินตราในทุกวันนี้ เหมือนเป็นคำพูดนามธรรม ยากต่อการทำแต่ก็ใช้ว่าจะไม่สามารถทำอะไรให้ดีขึ้นได้เลย เพียงแต่ต้องเริ่มต้น ปลูกฝังค่านิยมกันเสียใหม่ เลือกให้ความสำคัญกับวัตถุ เลิกยึดติดสินค้าแบรนด์เนมที่เกินความจำเป็น หากนึงภาพอะไรไม่ออก ขอให้มองแบบอย่างของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พ่อหลวงที่สอนให้ราษฎรของพระองค์มีชีวิตอยู่ด้วยความพอเพียง มีน้ำใจ รู้จักการเสียสละแบ่งปัน อันเป็นสิ่งที่มีค่า เป็นปัจจัยแห่งความสุขในชีวิต ช่วยเสริมสร้างสังคมให้เข้มแข็งเปี่ยมล้นไปด้วยความสงบสุขที่มั่นคง และยั่งยืน

ที่มา : http://www.bejame.com/article/858 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น